บทคัดย่อ
การวิจัยเชิงพรรณนาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมการดูแลสุขภาพตนเอง และเปรียบเทียบพฤติกรรมการดูแลตนเองจำแนกตามปัจจัยต่างๆของผู้ป่วยโรคหัวใจในคลินิกวาฟาร์รีนกลุ่มตัวอย่างคือผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยโดยแพทย์ว่าเป็นโรคหัวใจและได้รับยาละลายลิ่มเลือดที่มารับบริการที่ โรงพยาบาลปราสาทจังหวัดสุรินทร์โดยเลือกตัวอย่างแบบเจาะจงจำนวน110 รายเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่แบบสอบถามซึ่งประกอบด้วยข้อมูล 4 ส่วน คือข้อมูลทั่วไป แบบวัดความรู้ แบบวัดเจตคติ แบบวัดพฤติกรรมการดูแลตนเอง ซึ่งผ่านการตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหาจากผู้เชี่ยวชาญและทดสอบความเชื่อมั่นโดยวิธีอัลฟาของครอนบาค มีค่าเท่ากับ 0.66 , 0.68 และ 0.87ตามลำดับ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยแบบสอบถามกลุ่มตัวอย่างในระหว่างวันที่1 กุมภาพันธ์ถึง 31พฤษภาคม2557วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพรรณนาได้แก่ จำนวน ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและสถิติวิเคราะห์ได้แก่ Independent -test และ ANOVA ผลการวิจัยมีดังต่อไปนี้
กลุ่มตัวอย่างมีพฤติกรรมการดูแลตนอยู่ในระดับสูง ร้อยละ 86.4 และระดับปานกลาง ร้อยละ 7.5 ไม่พบผู้ที่มีพฤติกรรมการดูแลตนเองในระดับต่ำ
เมื่อเปรียบเทียบพฤติกรรมการดูแลตนเองจำแนกตามปัจจัยต่างๆของผู้ป่วย ผลการวิจัยพบว่า เพศ ค่า INR ความรู้และทัศนคติที่แตกต่างกันมีพฤติกรรมการดูแลตนเองแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
ปัจจัยอื่นๆ ได้แก่ อายุอาชีพระดับการศึกษา รายได้เฉลี่ยระยะเวลาการเจ็บป่วยโรคร่วม และการได้รับข้อมูลข่าวสาร ไม่มีความเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการดูแลตนเอง
จากการค้นพบดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า ควรมีการจัดกิจกรรมการให้ความรู้แก่ผู้ป่วยโรคหัวใจในคลินิกยาวาร์ฟารีน ในเรื่องยาต้านการแข็งตัวของเลือด การออกกำลังกายที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วย ควรมีการพูดคุยปรับเปลี่ยนทัศนคติเกี่ยวกับการบริโภคอาหาร และยาสมุนไพร ให้คำแนะนำสาธิต การปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อเกิดอุบัติเหตุหรือมีบาดแผล และการปฏิบัติตัวก่อนการทำทันตกรรม โดยเน้นในผู้ป่วยที่มีระดับ INR น้อยกว่าหรือมากกว่าค่าปกติและในผู้ป่วยเพศชายเนื่องจากผู้ป่วยเพศชายมีพฤติกรรมการดูแลตนเองไม่ดีเท่าเพศหญิง