การวิจัยเรื่องปัจจัยในการส่งเสริมการเลี้ยงดูบุตรด้วยนมมารดาในมารดาหลังคลอดบุตร โรงพยาบาลปราสาท จังหวัดสุรินทร์ นี้เป็นการวิจัยเชิงวิเคราะห์ (Analytical Research) ครั้งนี้ ใช้วิธีการศึกษาแบบภาคตัดขวาง (Cross-Sectional Study) เพื่อศึกษาอัตราการเลี้ยงดูบุตรด้วยนมมารดาและปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการเลี้ยงดูบุตรด้วยนมมารดาในมารดาหลังคลอดบุตร โรงพยาบาลปราสาท จังหวัดสุรินทร์ กลุ่มตัวอย่าง คือมารดาหลังคลอดบุตรที่พาบุตรมารับบริการที่คลินิกพัฒนาการเด็กดี โรงพยาบาลปราสาทคัดเลือกกลุ่มตัวอย่างโดยวิธี การสุ่มตัวอย่าง โดยการเลือกแบบเจาะจง (purposive sampling) จึงได้ขนาดกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ มารดาวัยรุ่นที่คลอดบุตรใน อำเภอปราสาทจำนวน 120 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบสอบถาม เรื่องปัจจัยที่ส่งผลต่อการเลี้ยงดูบุตรด้วยนมมารดาในมารดาหลังคลอดบุตร แบ่งออกเป็น 4 ตอน ซึ่งผ่านการตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหาจากผู้เชี่ยวชาญ และทดสอบความเชื่อมั่นโดยวิธีอัลฟาของครอนบาคประกอบด้วย ปัจจัยนำ ปัจจัยเอื้อ และปัจจัยเสริมต่อการเลี้ยงทารกด้วยนมมารดาในมารดาหลังคลอด ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.72 , 0.73 และ 0.84 ตามลำดับ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม – 31 พฤศจิกายน 2555 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพรรณนาได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติการวิเคราะห์การทดสอบไคส์แควร์(Chi-square test)
ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างมีอัตราการเลี้ยงดูบุตรด้วยนมมารดาอย่างเดียว 6 เดือนขึ้นไปร้อยละ 85 และเลี้ยงทารกด้วยนมมารดาน้อยกว่า6 เดือนร้อยละ 15 เนื่องจากส่วนใหญ่ทำงาน ร้อยละ 70.8 น้ำนมมารดาไม่เพียงพอหรือไม่มีน้ำนมร้อยละ 25 และเรียนหนังสือ ร้อยละ 4.2 และศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการเลี้ยงดูบุตรด้วยนมมารดาในมารดาหลังคลอดบุตร ผลการวิจัยพบว่า อายุ ระดับการศึกษา รายได้เฉลี่ยต่อเดือน สถานภาพสมรส ปัจจัยนำ ปัจจัยเอื้อ และปัจจัยเสริมที่ส่งผลในการเลี้ยงบุตรด้วยนมมารดาในมารดาหลังคลอดบุตร ไม่มีความสัมพันธ์กับระยะเวลาการเลี้ยงทารกด้วยนมมารดา
จากการค้นพบดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าพยาบาลควรจัดกิจกรรมให้ความรู้และสาธิตเกี่ยวกับการเลี้ยงทารกด้วยนมมารดาให้แก่มารดาหลังคลอดบุตรได้ฝึกปฏิบัติเป็นรายบุคคล โดยเฉพาะในกลุ่มมารดาที่อายุมากกว่า 20ปี กลุ่มการศึกษาต่ำกว่าประถมศึกษา กลุ่มรายได้ต่ำกว่า 5000 บาทและกลุ่มสถานภาพสมรสโสดเพื่อส่งเสริมการเลี้ยงทารกด้วยนมมารดาอย่างน้อย 6 เดือน