การวิจัยเชิงพรรณนาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา ภาวะเครียดและปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการเกิดภาวะเครียดในญาติที่ดูแลผู้ป่วยจิตเวช โรงพยาบาลปราสาท กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้ดูแลผู้ป่วยจิตเวช ทั้งที่มารับบริการที่คลินิกสุขภาพจิต โรงพยาบาลปราสาท และจากการติดตามเยี่ยมที่บ้าน โดยการเลือกแบบเจาะจง จำนวน 84 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ แบบสอบถาม ซึ่งประกอบด้วยข้อมูล 4 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 เป็นข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม ส่วนที่ 2 เป็นแบบสอบถามความรู้ ส่วนที่ 3 เป็นแบบสอบถามทัศนคติเกี่ยวกับผู้ป่วยจิตเวช และส่วนที่ 4 เป็นแบบคัดกรองภาวะเครียดของ กรมสุขภาพจิต ( ST 5) ซึ่งผ่านการตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหาและความเชื่อมั่น เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 25 สิงหาคม – 25 พฤศจิกายน 2555 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ สถิติพรรณนา ได้แก่ จำนวน ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติวิเคราะห์ โดยใช้ Chi – Square test
ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างที่มีภาวะเครียดอยู่ในระดับต่ำ ร้อยละ 42.9,ภาวะเครียดระดับปานกลาง ร้อยละ 32.10 , กลุ่มตัวอย่างที่มีภาวะเครียดในระดับสูง ร้อยละ 13.1 และพบกลุ่มตัวอย่างมีภาวะเครียดในระดับสูงสุด ร้อยละ 11.9 พบว่าในกลุ่มตัวอย่างที่เป็นเพศชาย ,กลุ่มที่มีรายได้ต่ำ , ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 50 ปี รวมถึงผู้ที่มีระดับการศึกษาตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษาลงมา , ผู้ที่ดูแลผู้ป่วยจิตเวชเป็นระยะเวลามากกว่า 5 ปี , ผู้ที่มีความรู้ในระดับปานกลางลงมาและผู้ที่มีทัศนคติที่ดีต่อผู้ป่วยจะมีภาวะเครียดระดับสูง เมื่อทดสอบความสัมพันธ์พบว่า เพศ ระดับความรู้และทัศนคติต่อผู้ป่วยจิตเวช มีความสัมพันธ์กับการเกิดภาวะเครียดในผู้ดูแลผู้ป่วยจิตเวชอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
จากผลการวิจัย ควรมีการประเมินความเครียดและประเมินทัศนคติในญาติที่ดูแลผู้ป่วยจิตเวชเป็นระยะ เพื่อค้นหาและช่วยเหลือญาติผู้ป่วยที่มีความเครียดสูงและควรมีการจัดกิจกรรมให้ความรู้ในกลุ่มญาติผู้ดูแลผู้ป่วยจิตเวชอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นผู้ดูแลผู้ป่วยในรายใหม่ รวมทั้งควรมีโครงการจัดกิจกรรมเพื่อการผ่อนคลายให้แก่ญาติที่ดูแลผู้ป่วยจิตเวชเป็นระยะโดยเฉพาะในกลุ่มผู้ดูแลที่มีรายได้น้อย , ผู้ที่มีความรู้อยู่ในระดับปานกลาง , ผู้ดูแลที่เป็นญาติใกล้ชิดที่เป็นบิดา มารดาหรือบุตรและผู้ที่มีระยะเวลาในการดูแลผู้ป่วยนานโดยเฉพาะตั้งแต่ 15 ปีขึ้น ควรสนับสนุนงานบริการเยี่ยมบ้านและครอบครัวผู้ป่วยจิตเวชอย่างต่อเนื่องทั้งนี้เพื่อเน้นบริการเชิงรุกและดูแลญาติผู้ป่วยที่มีปัญหาด้านสุขภาพจิตที่บ้านร่วมด้วย